RUSSIAN EXPORT CENTER
ปริมาณการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ทรัพยากรและพลังงานของรัสเซีย เพิ่มสูงขึ้นในปี 2562
ตามข้อมูลในปี 2562 ปริมาณรวมของการส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ทรัพยากรและพลังงานของรัสเซีย (NRE) มีมากถึงถึง 154.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็น 0.2% มากกว่าปี 2561 ซึ่งเป็นการทำลายสถิติ

ตัวบ่งชี้นี้ประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาวะที่ยากลำบาก ปี 2562 เป็นปีที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกถดถอยในแง่ของสินค้าจำนวนมากที่มีความสำคัญต่อการส่งออกของรัสเซีย ราคาส่งออกที่ต่ำทำให้ผู้ผลิตหลายรายไม่ขายในต่างประเทศ แต่สร้างสต็อกสำรองพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น การเจริญเติบโตของการส่งออกยังถูกขัดขวางโดยลัทธิการคุ้มครองทางการค้า (protectionism) และสงครามการค้าของโลกที่เพิ่มขึ้น
ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์เชิงลบ แต่ปริมาณของ NRE ตามข้อมูลของศูนย์ฯ REC เพิ่มขึ้น 2.7% ในปี 2562 ซึ่งจากข้อมูลนั้นคือ ผู้ส่งออกสร้างและส่งมอบผลิตภัณฑ์มากขึ้นไปยังตลาดต่างประเทศ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับเงินน้อยลงก็ตาม จากข้อมูลของคุณเวโรนิก้า นิคิชิน่านั้น ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลขปี 2562 ของNRE ได้เกินจากในปีที่แล้ว ในด้านของการเงินเองก็แสดงให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นนั้นสามารถเพิ่มการผลิตและชดเชยสภาวการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้ได้

ในปี 2562 ดัชนีปริมาณนั้นเพิ่มขึ้นในเกือบทุกภาคของ NRE การเปลี่ยนแปลงเชิงลบนั้นถูกพบว่ามีการส่งออกข้าวและปลาซึ่งเป็นผลมาจากฐานที่สูงของปี 2561 เนื่องจากการเก็บเกี่ยวที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2561 นั้น รัสเซียได้ส่งมอบข้าวสาลีจำนวนมากไปในต่างประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และฤดูการจับปลาที่อุดมสมบูรณ์มากในปี 2561 ทำให้มีการส่งออกปลาในปริมาณที่มากอีกด้วย ทางด้านวิศวกรรมยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน (-0.1%) ส่วนทางด้านอื่น ๆ ก็แสดงให้เห็นถึงปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561ด้วยเช่นกัน

เมื่อสิ้นปี 2562 กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้ปรับวิธีการคำนวณตัวบ่งชี้การส่งออกที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มสินค้าบางตัวเข้าไปในตัวบ่งชี้ของ NRE ที่ไม่ได้เพิ่มไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นตัวชี้วัดสำหรับปีที่ผ่านมาจึงถูกคำนวณใหม่ ตัวอย่างเช่น ในปี 2561 การส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ทรัพยากรมีมูลค่า 154.2 พันล้านดอลลาร์ (- 151.4 พันล้านดอลลาร์ตามวิธีเดิม)

ในปี 2562 ผู้ส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ทรัพยากรได้รับเงินทุก ๆ 8 ดอลลาร์จากมาตรการสนับสนุนจากศูนย์ส่งออกรัสเซีย การส่งออกที่ได้รับการสนับสนุนของศูนย์ฯ REC มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 19.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือเท่ากับ 12.6% ของยอดรวมจำนวน 154.5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ศูนย์ฯ REC ยังช่วยผู้ส่งออกมากกว่า 11,000 คนโดย 80% เป็น SMEs อีกด้วย

ในปี 2562 นั้น อัตราการเติบโตสูงสุดของภาคการเงินนั้นได้มาจากการส่งออกของ NRE ดังต่อไปนี้ คือ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม (+ 29.8%) ผลิตภัณฑ์น้ำมันและไขมัน (+ 28%) ภาคอาหารและแปรรูป (+ 12.7%) เมื่อเทียบกับปี 2561 การส่งออกของยา น้ำหอมและเครื่องสำอางขยายตัวถึง 10.1% สินค้าอุปโภคบริโภค - 7.7% การส่งออกปลาและอาหารทะเลเพิ่มขึ้น 3.6% เนื่องจากปริมาณปูที่เพิ่มขึ้น มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย + 1.2% ของผลิตภัณฑ์โลหะและการส่งออกโลหะที่มีค่า

อุตสาหกรรมเคมีแสดงให้เห็นว่าปริมาณการส่งออกในรูปของตัวเงินลดลง (-2.8%) นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้น เนื่องจากการลดลงของราคาในเกือบทุกช่วงระดับของสารเคมี น้ำมันและก๊าซ การส่งออกไม้และกระดาษลดลง 6.7% ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวม ผู้ประกอบการบางรายไม่ได้ทำการส่งออก เนื่องจากราคาที่ถูกและปริมาณที่ตุนไว้สะสม การส่งออกทางวิศวกรรมลดลง 0.5% แต่กระนั้นการส่งออกบางกลุ่มแสดงถึงการเติบโตที่มั่นคง ตัวอย่างเช่น การส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 23.6% ในรูปของตัวเงิน

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น การส่งออกข้าวลดลง (-24.3%) เกิดขึ้นกับภูมิหลังของปริมาณข้าวสาลีและธัญพืชอื่น ๆ (ข้าวบาร์เลย์,ข้าวโพด, ข้าวไรย์) นั้นมีปริมาณมากในปี 2561 ปริมาณที่ขาดไปถูกแทนที่ด้วยภาคอุตสาหกรรมเกษตรอื่น ๆ ข้อมูลปริมาณนี้มันเกินกว่าตัวบ่งชี้ที่วางเป้าไว้ที่จำนวน 24 พันล้านเหรียญสหรัฐที่กำหนดไว้สำหรับอุตสาหกรรมเกษตร โดยในปี 2562 เป็นจำนวน 1.6 พันล้านดอลลาร์

10 อันดับแรกของประเทศที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ NRE ของรัสเซียในปี 2562 ได้แก่
  1. จีน ( 14.5 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ; + 19%);
  2. คาซัคสถาน (12.04 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ + 10%);
  3. เบลารุส ( 10.56 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ; + 2%);
  4. ตุรกี (7.79 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ + 10%);
  5. เนเธอร์แลนด์ (7.67 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ; + 17%);
  6. สหราชอาณาจักร (7.58 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ; + 229%);
  7. สหรัฐอเมริกา (6.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ; -17%);
  8. อียิปต์ (5.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ; -14%);
  9. เยอรมนี (4.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ; -11%);
  10. อินเดีย (4.43 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ -14%).